โรคที่มากับหน้าหนาว รับมืออย่างไรให้เที่ยวได้อย่างอุ่นใจ

โรคที่มากับหน้าหนาว

โรคที่มากับหน้าหนาว มีอะไรบ้าง

1. โรคไข้หวัด และ โรคไข้หวัดใหญ่
สาเหตุ :
ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อจากการสูดละอองฝอยจากการไอจาม
อาการ : ปวดศีรษะทั่วไปจึงถึงขั้นรุนแรง ไอ จาม น้ำมูกใส คัดจมูก ไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว

2.โรคปอดบวม

สาเหตุ : ปอดบวม คือภาวะปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส จนทำให้มีหนองและสารปนเปื้อนภายในถุงลม
อาการ : ผู้ป่วยมักมีอาการ คือ ไอ จาม มีเสมหะมาก แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก คัดจมูก หนาวสั่น มีไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน ปอดบวมมักพบหลังจากการเป็นไข้หวัดเรื้อรัง และในผู้ป่วยโรคหอบหืด ปอดบวมมักพบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กเล็กอายุระหว่าง 5 – 10 ปี

3. โรคภูมิแพ้

สาเหตุ : หน้าหนาวผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่เดิมอาจมีอาการมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงอากาศเปลี่ยนใหม่ๆ ผู้ที่แพ้ไรฝุ่นจากที่นอน ควันบุหรี่ ขนสัตว์ มีโอกาสได้รับการกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้มากขึ้น
อาการ : ทำให้มีอาการคันจมูก คันตา จาม น้ำมูกใส คัดจมูกตลอดเวลา บางรายอาจมีผื่นคัน

4. หัดเยอรมัน (Rubella) 
สาเหตุ :เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า “รูบีโอราไวรัส” (Rubeola virus) เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็กเล็ก
อาการ : อาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด คือมีไข้ มีน้ำมูก มักไอแห้งตลอดเวลา ตาและจมูกแดง โดยมักมีไข้สูงประมาณ 3 – 4 วันติดต่อกัน จากนั้นจึงขึ้นผื่นแดง ตามร่างกาย โดยผื่นจะค่อยๆ โตขึ้น และมีสีเข้มขึ้น อาการที่สังเกตได้ว่าจะเป็นหัดคือ ผู้ป่วยมักมีตุ่มใส ๆ ขึ้นในปาก ตรงกระพุ้งแก้มและฟันกราม ซึ่งเป็นตุ่มที่เกิดเฉพาะในโรคหัดเท่านั้น หลังจากผื่นออกประมาณ 2 – 3 วัน อาการก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ และหายได้เอง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ โรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม อุจจาระร่วง สมองอักเสบ และหูชั้นกลางอักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้หัดจะติดต่อทางลมหายใจ ไอ จาม กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดโรคนี้คือวัยเด็กช่วงอายุ 5 – 9 ปี

5.โรคอีสุกอีใส

สาเหตุ : มักระบาดช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม เกิดจากเชื้อไวรัส ชื่อไวรัสวาริเซลลา ติดต่อผ่านทางการสัมผัสตุ่มน้ำใสโดยตรง สัมผัสของใช้ มีระยะฟักตัวในร่างกาย 10 – 20 วัน พบมากในเด็กอายุ 5 – 15 ปี โดยเกิดกับผู้ที่ยังไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน

อาการ : อาการแรกเริ่มจะคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่คือ ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามร่างกาย แต่จะมีผื่นแดงหรือตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย มีอาการคัน ต่อมาจะกลายเป็นหนอง หลังจากนั้นจะแห้งและตกสะเก็ดภายใน 5 – 10 วัน และอาการไข้ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น
6.โรคอุจจาระร่วง

สาเหตุ : โรคอุจจาระร่วงในฤดูหนาวมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น โรต้าไวรัส มักพบในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี
อาการ :
 ถ่ายเหลว ก้นแดง อาเจียน กินได้น้อย ไข้สูง อ่อนเพลีย

  • โรคที่มากับหน้าหนาว รับมือได้อย่างไร

     

1. โรคไข้หวัด และ โรคไข้หวัดใหญ่
วิธีรับมือ : ไข้หวัดธรรมดา :

สำหรับคนส่วนมากมักหายเอง เมื่อเป็นไข้หวัดควรพักผ่อนมากๆ ดื่มน้ำให้บ่อย เช็ดตัวทุกชั่วโมงเพื่อระบายความร้อนในร่างกาย และรับประทานยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาลดน้ำมูก เหล่านี้เพียงบรรเทาอาการ ไม่ได้รักษา หรือทำให้หายเร็วขึ้น แต่ถ้ามีไข้ขึ้นสูงติดต่อกันนาน ควรพบแพทย์ เพื่อเช็คอาการให้ละเอียดต่อไป
ดูแลตัวเองอย่างไรให้ห่างไกลไข้หวัด

ควรรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เป็นต้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษ ควรสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่มาจากการ ไอและจาม

ไข้หวัดใหญ่ :

การรักษาคล้ายกับโรคไข้หวัดนั่นคือ ควรดื่มน้ำให้มาก เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย เช็ดตัวทุกชั่วโมง รับประทานยาตามอาการ และมียาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน แต่ถ้ารับประทานยาลดไข้แล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ทันที

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมีบริการตามโรงพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วไป นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ช้อน เป็นต้น และควรใส่หน้ากากอนามัย เมื่อต้องอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำสบู่ เจลแอลกฮอลล์ หรือเช็ดมือด้วยทิชชู่เปียก เป็นต้น


2.โรคปอดบวม

วิธีรับมือ :

หากมีอาการคล้ายเป็นปอดบวม ควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุด และหากแพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการปอดบวมแล้ว จะให้รับประทานยาปฏิชีวนะ ควบคู่ไปกับยาลดไข้ ยาละลายเสมหะ และยาขยายหลอดลม พร้อมแนะนำให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำจะช่วยละลายเสมหะได้

อาการปอดบวมส่วนใหญ่มักเริ่มจากการเป็นไข้หวัด ดังนั้นเมื่อรู้ว่าเริ่มเป็นไข้หวัด ให้รีบรักษาเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน พยายามดื่มน้ำอุ่นมากๆ อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก สำหรับเด็กเล็กควรฉีดวัคซีนป้องกันปอดบวม หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และหมั่นรักษาความสะอาด ล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย


3. โรคภูมิแพ้

วิธีรับมือ : หลีกเลี่ยงอากาศหนาวจัด สวมเสื้อผ้าป้องกันเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย รับประทานยาแก้แพ้อากาศเพื่อบรรเทาอาการ

 

4. หัดเยอรมัน (Rubella) 
วิธีรับมือ :

โรคหัดไม่ใช่โรคร้ายแรงนัก แต่ยังไม่มียารักษาโดยตรง จึงต้องรักษาตามอาการ เช่น รับประทานยาลดไข้ ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ อาการต่างๆ จะทุเลาลงเอง แต่หากมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น หายใจสั้น เจ็บที่หน้าอกขณะหายใจ ชัก ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน

วิธีที่ดีที่สุดคือ การฉีดวัคซีนรวม หัด หัดเยอรมันและคางทูม จะช่วยป้องกันโรคหัดได้ โดยปัจจุบันเด็กทุกคนจะได้รับวัคซีนนี้เมื่ออายุ 9 – 12 เดือน และต้องฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 6 ปี

 

5.โรคอีสุกอีใส
วิธีรับมือ :

ไข้สุกใส ต้องรักษาตามอาการ เมื่อมีไข้ให้รับประทานยาลดไข้ งดการใช้ของร่วมกับผู้อื่น และหยุดพักจนกว่าจะหายดี ห้ามแคะ แกะเกา บริเวณตุ่ม เพราะอาจทำให้อักเสบ และเป็นแผลเป็นได้ ส่วนมากผู้ป่วยโรคนี้ไม่ต้องพบแพทย์ เพราะอาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคแทรกซ้อน และอาการจะทุเลาลงเอง

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันไข้สุกใส โดยฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ผู้ใหญ่ที่ยังไม่เคยเป็น ก็สามารถฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันได้เช่นกัน โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัส ฉะนั้นเมื่อพบผู้ที่เป็นโรคนี้ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกัน หรือสัมผัสถูกตัวกัน แต่ผู้ที่เคยเป็นโรคไข้สุกใสแล้วจะไม่เป็นซ้ำ จึงอยู่ร่วมกับผู้ที่เป็นโรคได้ตามปกติ

ทั้ง 6 โรคนี้ เป็นโรคที่มักระบาดในช่วงฤดูหนาว เพราะติดต่อได้ง่าย เช่น การไอ จาม สัมผัส หรือใช้สิ่งของร่วมกัน เราจึงควรดูแลร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รักษาความสะอาด ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสสิ่งสกปรก โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหรือผู้ที่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคโลหิตจาง ควรดูแลร่างกายเป็นพิเศษ เนื่องจากมีระดับภูมิต้านทานต่ำ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง


6.โรคอุจจาระร่วง

วิธีรับมือ :

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคนี้โดยตรง จึงทำได้แค่ประคับประคองอาการของผู้ป่วยให้ดีขึ้น โดยควรให้ผู้ป่วยจิบสารละลายเกลือแร่บ่อยๆ เพื่อป้องกันการขาดน้ำ แต่หากผู้ป่วยดื่มน้ำไม่ได้ จำเป็นต้องให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดแทน ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ และอาการจะค่อยๆ ทุเลาลง

ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรต้าไวรัส ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดรับประทาน โดยมีทั้งชนิด 2 หรือ 3 ครั้ง แล้วแต่ชนิดของวัคซีน เด็กสามารถรับได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน วัคซีนจะช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันโรค และลดความรุนแรงลงได้อีกปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันคือ ต้องรักษาสุขอนามัยภายในบ้าน เพื่อป้องกันเด็กหยิบจับสิ่งของแล้วติดเชื้อ ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัดหรือย่านชุมชน ก็จะช่วยป้องกันโรคได้ส่วนหนึ่ง

Page : โรคที่มากับหน้าหนาว

คลิ๊กเข้าสู่หน้า motherife
คลิ๊กเพื่อชมบทความแม่และเด็ก
ไปสู่หน้า Home
Home
คลิ๊กเพื่อเข้าสู่หน้าสาระน่ารู้
คลิ๊กเพื่อชมบทความสาระการดูแลสุขภาพ

พร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อเราได้ที่

FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SERES L กลูตาไธโอน บำรุงผิวขาวใส

ตอบ : สินค้าพร้อมส่ง เราจัดส่งให้ท่านทุกวัน โดยปกติจะใช้เวลา 1-3วัน สินค้าจะถึงท่าน

ตอบ : สินค้าทุกชิ้นของทางบริษัทผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เลขที่ 20-1-05761-5-0001

พร้อมรับสมัคร ตัวแทนจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ
Accept Reseller
ราคาดีที่สุด ยิ่งสั่งเยอะยิ่งถูก มีราคาส่ง
Best Price
ส่งเร็ว ส่งด่วนทุกวัน
(ยกเว้นวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
Fast Delivery
ออกใบกำกับภาษีได้
Can Issue Tax
สินค้าทุกรายการผ่าน อย.ไทย และผ่านการ QC คัดสรรคุณภาพ
Quality Product
ขั้นตอนการสั่งซื้อง่าย เพียงกดใส่ตะกร้าใน LINE SHOP ทำการโอนชำระ และแนบสลิป
Easy Procedure
WORLDMED SOLUTION

ผู้นำการให้บริการจัดจำหน่าย อุปกรณ์การแพทย์ อาหารเสริม ชุดตรวจ ATK ราคาส่ง มีประสบการณ์การให้บริการธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ และอาหารเสริมอย่างยาวนาน ทีมงาน Worldmed Solution ยินดีเป็นส่วนหนึ่งที่จะรับใช้คุณ ช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ด้่วยความใส่ใจดูเเลทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับการ บริการที่เหนือกว่า สัมผัสความประทับใจในทุกการบริการของเรา

We strive to make you happy

YOUR SMILE IS OUR GOAL : )

A,Young,Asian,Doctor,With,His,Hand,On,The,Shoulder