ครีมกันแดด

ครีมทาผิว ครีมบำรุงผิว ผิวขาว ครีมลดลอยสิว ครีมเภสัช จำหน่ายครีมทาผิวราคาส่งยกลัง ปรึกษาทีมงานเพื่อสั่งซื้อครีมให้ถูกต้องเหมาะกับอาการและสุขภาพของแต่ละท่าน แชทปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ชำระเฉพาะค่าอาหารเสริมและค่าจัดส่ง

 

ครีมกันแดด คืออะไร?

 ครีมกันแดด (Sunscreen) คือ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหนังที่ใช้ทาเพื่อปกป้องผิวจาก รังสี UV (Ultraviolet) ที่มาจากแสงแดดซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิว และยังทำให้เกิดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนังทำให้สีผิวคล้ำได้

ครีมกันแดดมีกี่ประเภท?

  • Chemical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมี ทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย

  • Physical Sunscreen เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสาร ที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนัง น้อยกว่าสารในกลุ่มแรก แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้เมื่อทาบนผิวหนังแล้วจะให้สีที่มีความขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย

  • แบบผสม Chemical-Physical Sunscreen เป็นการเสริมข้อดี ลดข้อด้อยในแต่ละส่วน นั่นคือ ลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง จากสารประเภทสารเคมี และลดความขาวเมื่อทาครีม และเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดดร่วมกัน 
  •  

SPF ต่างๆคืออะไร ดูอย่างไร?

  • SPF คือค่าประสิทธิภาพของครีมกันแดดในการป้องกันรังสียูวีบี (UVB) ว่าครีมกันแดดเราสามารถปกป้องเราได้นานเท่าไหร่
    เช่น
    SPF30  นั้นหมายถึง ผิวเราสามารถทนแดดได้เป็นเวลา 15×30=450 นาที หรือประมาณ 7 ชั่วโมงโดยเฉลี่ย ซึงประสิทธิภาพการปกป้องขึ้นอยู่กับ การเสียดสี ผิวโดนน้ำและเหงื่อด้วย ปัจจุบันค่า SPF มากสุดอยู่ที่ 50 เท่านั้น  เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดควรทาครีมกันแดดซ้ำในทุกๆ 2-4 ชั่วโมง

แล้ว ค่า PA ล่ะคืออะไร? Protection Grade of UVA

  •  ค่า PA หรือ Protection Grade of UVA เป็นค่าประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA ซึ่งในปัจจุบันค่า PA สูงสุดอยู่ที่ ++++
    ยิ่งมีค่า + มาก ประสิทธิภาพในการปกป้อง UVA ยิ่งมีมากขึ้น นั่นเอง สำหรับกิจกรรมทั่วไปใช้เพียงPA + ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าใครออกแดดเป็นประจำให้ใช้ค่า PA ++ จนถึง ++++ ตามลำดับ โดยมีการนิยามไว้คร่าวๆดังนี้

    PA+ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 1-4 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้น้อย
    PA++ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 4-8 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้ปานกลาง (ทำงานในร่ม)
    PA+++ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 8-16 เท่า หรือป้องกันได้มาก (ทำงานกลางแดด) PA++++ สามารถป้องกันรังสี UVA ได้ 16 เท่าขึ้นไป หรือป้องกันได้สูงมาก (ทำงานกลางแดดตลอดเวลา)

     

วิธีการเลือกใช้ครีมกันแดดอย่างถูกต้อง

สังเกตลักษณะผิวของคุณเองเพื่อที่จะเลือกครีมกันแดดได้อย่างเหมาะสม ข้อแนะนำคือผู้ที่มีผิวค่อนข้างมัน หรือเป็นสิว ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที๋เป็นเนื้อโลชั่นหรือเจล เพื่อเลี่ยงความเหนียวเหนอะหนะ
และ ผู้ที่มีผิวแห้ง ควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบชนิดเนื้อครีม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว สำคัญคือไม่ควรใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของแอกอฮอล์ เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้ ในเรื่องของการ
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงๆ ก็อาจมีข้อข้อจำกัดคืออาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบางท่านได้ให้ความเห็นไว้ว่าความสามารถของครีมกันแดด SPF 50 กับ SPF 100 นั้น ต่างสามารถปกป้อง UVB ได้เช่นเดียวกัน เพราะการทาครีมกันแดดต้องทาซ้ำในทุกๆ 2 ถึง 4 ชั่วโมงอยู่แล้วนั่นเองดังนั้นแล้วสำหรับคนผิวแพ้ง่ายให้ใช้ “ครีมกันแดด” SPF 50 ก็เพียงพอแล้ว อีกเรื่องสำคัญที่หลายท่านอาจจะต้องสังเกตเพิ่มเติมคือสูตรที่ป้องกันรังสี อินฟราเรด (NIR) ซึ่งทำให้ผิวหมองค้ำ มีปัญหาริ้วรอย เหี่ยวย่นแก่ก่อนวัย ผิวเสียความยืดหยุ่น ที่สำคัญรังสีนี้ไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งผิวหนังได้ดีอีกด้วย ซึ่งอันตรายไม่แพ้รังสี UVA และ UVB เลย 

วิธีทดสอบอาการแพ้ครีมกันแดด

เราควรทดสอบการแพ้ครีมกันแดดก่อนใช้เสมอ ด้วยการนำครีมกันแดดมาทาใต้ท้องแขนทิ้งไว้ 15 นาที แล้วสังเกตว่ามีอาการบวมแดงหรือไม่ (แต่บางท่านอาจใช้เวลานานกว่านั้น จึงจะปรากฏอาการแพ้ ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาในการสังเกตถึง 3 วัน ) ถ้ามีอาการดังกล่าวแสดงว่าเราแพ้สารเคมีจากครีมกันแดดชนิดนั้น ๆ


พร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อเราได้ที่

FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ครีมบำรุงผิว

ตอบ :

ชนิดของรังสียูวี แสงแดดที่แทรกชั้นบรรยากาศลงมาถึงโลกของเราได้นั้น จะมีรังสีแสงแดดที่มีผลต่อผิวหนังอย่างมาก ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วงคลื่นใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ ช่วงคลื่นระหว่าง 320-400 นาโนเมตร (คลื่นยาว) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่สามารถแทรกซอนถึงผิวชั้นลึก ๆ หรือผิวหนังชั้นล่างได้ ทำลายเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอของเซลล์ผิว (สามารถทะลุผ่านเมฆและกระจกได้ด้วย) โดยเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งจนเกิดริ้วรอยลึกหรือผิวเหี่ยวย่น (++++), ทำให้เกิดฝ้า กระ (+++), มะเร็งผิวหนัง (++) และผิวหมองคล้ำ (+) ช่วงคลื่นระหว่าง 290-320 นาโนเมตร (คลื่นกลาง) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVB เป็นรังสีสามารถทะลุได้ถึงชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น จึงทำให้ผิวหนังแดงหรือผิวไหม้แดด ซึ่งเป็นตัวการหลักทำให้สีผิวของเราหมองคล้ำ หรือที่เราเรียกว่า “แดดเผา” (++++), เป็นมะเร็งผิวหนัง (+++), ทำให้เกิดริ้วรอย (++) และปัญหาฝ้า กระ (+) ช่วงคลื่นระหว่าง 200-290 นาโนเมตร (คลื่นสั้น) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVC ซึ่งในปัจจุบันยังส่องมาที่พื้นโลกได้ไม่มากนัก เพราะเกือบทั้งหมดถูกกรองไปแล้วโดยชั้นบรรยากาศโอโซนที่ห่อหุ้มโลกของเราอยู่ จึงทำให้ไม่มีผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันรังสีชนิดนี้
รังสี UVA และ UVB จะมีมากที่สุดในช่วงเวลา 10.00-15.00 แต่ปริมาณของรังสี UVA จะมีตลอดทั้งวันแทบไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเช้าหรือเย็นก็ต้องระมัดวังให้ดี


พร้อมรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ
Accept Reseller
ราคาดีที่สุด ยิ่งสั่งเยอะยิ่งถูก มีราคาส่ง
Best Price
ส่งเร็ว ส่งด่วนทุกวัน
(ยกเว้นวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
Fast Delivery
ออกใบกำกับภาษีได้
Can Issue Tax
สินค้าทุกรายการผ่าน อย.ไทย และผ่านการ QC คัดสรรคุณภาพ
Quality Product
ขั้นตอนการสั่งซื้อง่าย เพียงกดใส่ตะกร้าใน LINE SHOP ทำการโอนชำระ และแนบสลิป
Easy Procedure
WORLDMED SOLUTION

ผู้นำการให้บริการจัดจำหน่าย อุปกรณ์การแพทย์ อาหารเสริม ชุดตรวจ ATK ราคาส่ง มีประสบการณ์การให้บริการธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ และอาหารเสริมอย่างยาวนาน ทีมงาน Worldmed Solution ยินดีเป็นส่วนหนึ่งที่จะรับใช้คุณ ช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ด้่วยความใส่ใจดูเเลทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับการ บริการที่เหนือกว่า สัมผัสความประทับใจในทุกการบริการของเรา

We strive to make you happy

YOUR SMILE IS OUR GOAL : )

47296360_999755030224979_6019024635276820480_n