โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน รู้ทันป้องกันได้
สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ เคยหรือไม่ครับ รู้สึกเวียนหัวเหมือนบ้านหมุน หูอื้อเป็นๆหายๆ และสาระในวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาการที่เราเรียกติดปากกันว่า น้ำในหูไม่เท่ากัน โดยอาการหลักที่เป็นปัญหาของโรคนี้คืออาการเวียนศีรษะ ซึ่งค่อนข้างอันตรายสำหรับท่านที่กำลังขับขี่ยานพาหนะหรือทำงานบนที่สูง มาถึงตรงนี้หลายท่านคงอาจจะสงสัยแล้วว่าโรคนี้มีสาเหตุจากอะไร ดูแลตนเองอย่างไร รักษาอย่างไร ติดตามไปพร้อมกันครับ
อาการของผู้ที่เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
โรคนี้จะประกอบด้วยอาการสำคัญ 3 อาการคือ เวียนศีรษะ (vertigo) มีเสียงดังในหู (tinnitus) และการได้ยินลดลง (hearing loss) ซึ่งแตกต่างจากการเวียนหัวธรรมดาที่จะมีเพียงอาการเวียนหัวเพียงอาการเดียวเท่านั้น ผู้ป่วยจะรู้สึกแน่นตื้อๆ ในหู มีเสียงรบกวนในหู ซึ่งอาจดังต่อเนื่องหรือดังเป็นพักๆ ในผู้ป่วยบางรายบอกว่าเหมือนมีเสียงลมพัดอยู่ในหู และจะมีอาการหูอื้อ การได้ยินลดลงด้วย ผู้ป่วยจะมีอาการต่างๆ เหล่านี้ราว 1-2 วัน แล้วค่อยๆ ดีขึ้นจนกลับมาเป็นปกติสักระยะหนึ่ง แล้วก็กลับมาเป็นซ้ำอีก ซึ่งความถี่ของอาการเวียนศีรษะก็แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล บางรายเกิดอาการทุกเดือน บางรายเป็นปีละครั้งสองครั้งเท่านั้น และความรุนแรงก็ต่างกัน ส่วนการได้ยินที่ลดลง ในระยะแรกจะเกิดร่วมกับอาการเวียนศีรษะ เมื่ออาการเวียนศีรษะหายไปการได้ยินจะกลับดีขึ้น แต่ในระยะหลังของโรค การได้ยินจะค่อยๆ เสื่อมลงจนถึงหูตึงมากได้
สาเหตุของการเกิดโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน เป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน แต่ก็มีการศึกษาและตั้งสมมุติฐานของโรคไว้หลายอย่างที่เป็นสาเหตุให้เกิดการดูดซึมของน้ำในหูชั้นในผิดปกติ หรือมีการอุดกั้นของเส้นทางการไหลเวียนของน้ำในหูชั้นใน สมมุติฐานเหล่านั้น ได้แก่
1.โครงสร้างของทางไหลเวียนของน้ำในหูชั้นในผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
2.โรคทางพันธุกรรม
3.ปฎิกิริยาภูมิแพ้
4.ภาวะภูมิคุ้มกันไวเกิน
5.การติดเชื้อไวรัส, การติดเชื้อจากหูชั้นกลาง หรือการติดเชื้อซิฟิลิส
6.อุบัติเหตุรุนแรงที่ศีรษะ
7.ความผิดปกติของระบบเผาผลาญและฮอร์โมน ตลอดจนการเสียสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย เป็นต้น
การปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเวลาเวียนศีรษะ
หยุดเดินและนั่งพัก: หยุดการเดินและหาที่นั่งพักเมื่อมีอาการเวียนศีรษะ เพื่อป้องกันการล้มหรือเกิดอุบัติเหตุจากการฝืนเดินในขณะที่มีอาการเวียนศีรษะ นั่งพักอย่างน้อยจนกว่าอาการจะผ่านไป
หยุดรถข้างทางหรือหยุดการทำงาน: หากอาการเวียนศีรษะเกิดขณะขับรถหรือทำงาน โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกลที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ ควรหยุดรถข้างทางหรือหยุดการทำงานเพื่อความปลอดภัย
นอนบนพื้นราบที่ไม่เคลื่อนไหว: หากมีอาการเวียนศีรษะมากๆ ควรนอนบนพื้นราบที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เช่นพื้นห้อง และควรมองไปยังวัตถุที่อยู่นิ่งและไม่เคลื่อนไหวเพื่อช่วยให้ระบบประสาทเข้าสมดุล
รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์: หากแพทย์ได้สั่งให้รับประทานยาเมื่อมีอาการเวียนศีรษะ ควรทานตามคำแนะนำเพื่อลดอาการ
หลีกเลี่ยงการรับประทานหรือดื่มมากเกินไป: การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มมากเกินไปอาจทำให้มีโอกาสอาเจียนเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรลดปริมาณอาหารและเครื่องดื่มที่รับประทานให้เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางเรือ: เดินทางโดยทางเรืออาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะมากขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางนี้ในช่วงที่มีอาการ
พักผ่อนและนอนหลับเพียงพอ: หากอาการเวียนศีรษะลดลง ควรพักผ่อนและนอนหลับเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟู หากตื่นมาแล้วยังรู้สึกง่วงหรือเพลีย แนะนำให้พักผ่อนเพิ่มเติมเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัว
วิธีป้องกันโรคน้ำในหูไม่เท่ากันและกระวนการรักษา
เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่จำเพาะเจาะจง จึงยังไม่มีวิธีป้องกันที่ต้นเหตุ โดยทั่วไปแล้วอาการเวียนศีรษะมักจะทิ้งช่วงห่างออกไปเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป ทำอารมณ์ให้แจ่มใส ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม เพราะความเค็มหรือเกลือโซเดียมที่มีปริมาณมากขึ้นในร่างกาย จะทำให้มีน้ำคั่งในร่างกาย และในหูชั้นในมากขึ้น อาจทำให้อาการผู้ป่วยแย่ลงได้
สำหรับการรักษาคุณหมอจะให้ยาบรรเทาอาการเวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ อาเจียน
อาจมีการรับประทานยาขยายหลอดเลือด(ฮิสตะมีน) ที่จะช่วยให้การไหลเวียนของน้ำในหูดีขึ้น
ซึ่งถ้าผู้ป่วยหายเวียนศีรษะแล้ว คุณหมอมักจะแนะนำว่าควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงหูชั้นใน
ส่วนคำแนะนำเพิ่มเติมจะเป็นในเรื่องของ การหลีกเลี่ยงสารคาเฟอีน (ชา เครื่องดื่มน้ำอัดลม และกาแฟ) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และความเครียด ซึ่งจะทำให้อาการของผู้ป่วยโรคนี้แย่ลง เนื่องจากจะไปลดเลือดที่ไปเลี้ยงหูชั้นในได้
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน รู้ทันป้องกันได้
Page : โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน รู้ทันป้องกันได้
พร้อมให้คำปรึกษา ติดต่อเราได้ที่
FAQ : คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ SERES L กลูตาไธโอน บำรุงผิวขาวใส
ตอบ : สินค้าพร้อมส่ง เราจัดส่งให้ท่านทุกวัน โดยปกติจะใช้เวลา 1-3วัน สินค้าจะถึงท่าน
ตอบ : สินค้าทุกชิ้นของทางบริษัทผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เลขที่ 20-1-05761-5-0001
WORLDMED SOLUTION
ผู้นำการให้บริการจัดจำหน่าย อุปกรณ์การแพทย์ อาหารเสริม ชุดตรวจ ATK ราคาส่ง มีประสบการณ์การให้บริการธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ และอาหารเสริมอย่างยาวนาน ทีมงาน Worldmed Solution ยินดีเป็นส่วนหนึ่งที่จะรับใช้คุณ ช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี ด้่วยความใส่ใจดูเเลทุกรายละเอียด เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับการ บริการที่เหนือกว่า สัมผัสความประทับใจในทุกการบริการของเรา
